นับตั้งแต่ Android 4.0 หรือเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน กราฟฟิคของระบบแทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลย และดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่หากเทียบกับคู่แข่งอย่าง iOS จนกระทั่งสัปดาห์นี้หลังจาก Google ได้ปล่อยอัพเดท Lollipop ให้กับมือถือตระกูล Nexus ใครได้สัมผัสล้วนบอกว่ามันดีขึ้นมากๆ และผมมองว่านี่คือครั้งแรกที่ Android ทำระบบออกมาได้ดูสวยไม้แพ้ iOS

[zilla_alert style=”grey”] เครื่องที่ใช้รีวิว
Nexus 4 รอม CyanogenMod 12 Lollipop (Unofficial) แม้ว่าจะเป็นรอม CM แต่รอมนี้แทบไม่มีฟีเจอร์ CM เลย เพราะรอมเพิ่งออกมาใหม่ ยังพัฒนาตัวเต็มไม่เสร็จ
[/zilla_alert]

Android Lollipop CM 12

สัมผัสแรก

รูปแบบธีมยังคงเป็นแบบที่ผู้ใช้ Android แทบจะไม่ต้องปรับตัวกลับการอัพเดทเป็นระบบใหม่ โดยจุดที่ผมชอบที่สุดคือ “ซอฟท์คีย์” ที่อยู่ข้างล่าง เปลี่ยนจากปุ่มใหญ่ๆมาเป็นปุ่มสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม และวงกลม มันดูสวยไม่เทอะทะเหมือนแบบเดิม

มาดูที่หน้ารวมแอพ รูปแบบการจัดเรียงแอพยังเป็นแบบเดิม สิ่งที่เปลี่ยนแม้จะมีแค่พื้นหลังสีขาว แต่ผมรู้สึกชอบแบบนี้

หน้าจอล็อค

เปลี่ยนวิธีปลดล็อคใหม่ ด้วยการกดเลื่อนหน้าจอขึ้น สิ่งที่ผมชอบคือการแจ้งเตือนที่หน้าจอล็อคมันเห็นได้ชัดดี

แถบแจ้งเตือน

เมื่อกดลากแถบแจ้งเตือนลงมาจนสุดจะเจอ Toggle แบบใหม่ มีปรับความสว่างหน้าจอ การเชื่อมต่อ ไฟฉาย และมีปุ่มส่งหน้าจอไปยังอุปกรณ์ที่รองรับ

มัลติทาสก์

รูปแบบการปิดแอพดูสวยและหรูขึ้นมากๆ

เมนูตั้งค่า

พื้นหลังของเมนูตั้งค่าเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีขาว ถือว่าเป็นการเปลี่ยนสีครั้งแรกนับตั้งแต่สร้างระบบ Android ขึ้นมา

เพิ่มผู้ใช้ได้หลายคน

แป้นพิมพ์

แป้นพิมพ์ดูสวยมาก เสียดายที่พิมพ์แบบ Swipe ไม่ได้ ถ้าได้คงได้ใช้เป็นแป้นพิมพ์หลัก เพราะปกติผมใช้ Swype Dragon ซึ่งพิมพ์ภาษาไทยได้ดี แต่เสียที่ธีมมันไม่เข้ากับ Andriod Lollipop

แอพ

แอพส่วนใหญ่ถูกปรับให้เป็น Material Design เหลือแต่แอพรูปภาพที่ผมรู้สึกว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลง

ประสิทธิภาพ

ผมยังบอกอะไรไม่ได้มาก แต่รู้สึกดีกับการใช้งานที่ไหลลื่นขึ้น แม้จะเป็นระบบใหม่ในสเปกเดิมก็ตาม

บทสรุป

Android Lollipop คือภาพลักษณ์ใหม่ของระบบ Android ที่ดูเป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้น ข้อด้อยเรื่องความไม่น่าใช้ของระบบที่มีมานานตอนนี้ถูกขจัดออกไปแล้ว เพราะระบบใหม่นี้มีกราฟฟิคที่สวยกว่าเดิมมากๆ …เหลือก็แต่แอพใน Google Play ถ้าส่วนใหญ่ยังไม่ปรับเป็น Material Design และยังมีแอพขยะอยู่เป็นจำนวนมากแบบนี้ การอัพเดทครั้งนี้จะไม่ค่อยมีความหมายมากนัก หากแอพต่างๆยังสร้างประสบการณ์ที่ไม่ดีกับผู้ใช้