Photoshop กับ Lightroom ต่างกันนะครับ เพราะโปรแกรมนี้ออกแบบมาเพื่อช่างภาพหรือคนชอบถ่ายรูปโดยเฉพาะ จริงๆด้านความสามารถของการตกแต่ง Photoshop ก็ทำได้อย่างที่ Lightroom ทำได้ ทำได้มากกว่าด้วยซ้ำ แต่ถ้าพูดถึงความสะดวกง่ายและรวดเร็ว Lightroom ทำได้ดีกว่า
Photoshop – สำหรับกราฟฟิคดีไซน์ ตกแต่ง และแก้ไขภาพ
Lightroom – สำหรับช่างภาพ ตกแต่ง และจัดการภาพ
สำหรับเวอร์ชั่นที่ผมลองใช้นี้เป็นแบบ ให้ทดลองใช้ฟรี 30 วัน ถ้าใช้ครบวันแล้วจะต้องจ่ายซื้อในราคา $149 หรือ 4,650 บาท ซึ่งก็ถือว่าแพงครับ แต่ถ้าคุณรักการถ่ายภาพ และยิ่งถ้าเป็นช่างภาพหาเงินเองได้แล้ว ราคานี้ถือว่าไม่แพง …หากเทียบกับค่าอุปกรณ์เสริมกล้อง
หน้าตา
ถ้ายังไม่เคยใช้โปรแกรมนี้เลย จะมึนๆเล็กน้อย เพราะมีหน้าตาที่ไม่เหมือนกับ Photoshop หรือโปรแกรมแต่งภาพทั่วๆไป แต่ถ้าเข้าใจถึงกระบวนการทำงานของโปรแกรมตัวนี้แล้ว จะรู้สึกว่ามัน “ใช้งานง่าย” กว่าที่คิด ง่ายพอๆกับแอพแต่งภาพ
กระบวนการทำงาน
1. คลิก Import นำภาพจากคอมมาใส่
2. ทำการตกแต่งภาพ
3. คลิก Export สำหรับส่งออกไฟล์ภาพที่แต่งเสร็จ
ตอนที่ทำการ Import จะสามารถนำภาพมาเก็บไว้ที่โปรแกรมได้ทีละหลายๆภาพ ทำให้มีความสามารถจัดการการตกแต่งภาพถ่าย
เครื่องมือ
สำหรับเปลี่ยนแสงและสีที่อยู่ในภาพ แต่ทำได้อย่างละเอียด และดูเป็นธรรมชาติ
Preset
ความน่าสนใจอยู่ตรงนี้ Preset คือสิ่งที่คล้ายๆกับเอฟเฟคบนแอพมือถือ ทำให้แต่งภาพได้อย่างบรรเจิดได้ง่ายเพียงคลิกเดียว และมีให้ดาวน์โหลดมาเพิ่มได้อีกมากมายจากอินเตอร์เน็ต หรือถ้ามีฝีมือก็สร้างขึ้นมาเองได้ ทำแจกจ่าย หรือจะทำขายเป็นก็ยังได้
อื่นๆ
– เพิ่มข้อมูลลงภาพถ่าย
– ทำภาพออกมาเป็น Book
– ทำ Slid Show
– พิมพ์ภาพ
– สร้าง Gallery สำหรับเว็บ
สิ่งที่ถูกใจ
– มีระบบจัดการภาพ
– ชอบที่มันมี Preset ทำให้แต่งภาพได้เร็ว และสวยอีกต่างหาก
– ระหว่างแต่งภาพ จะมีตัวเปรียบเทียบ ก่อนแต่งและหลังแต่ง
สรุป
ด้วยความสามารถของโปรแกรม มันเหมาะสำหรับ “ช่างภาพ” นะครับ เป็นโปรแกรมที่ช่างภาพควรมี ถ้าชอบตัดต่อภาพ หรือจะทำให้ภาพดูอลังการกว่านี้ ต้องใช้ Photoshop ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เหมาะสำหรับกราฟฟิคดีไซน์ สองโปรแกรมนี้มีความสามารถบางอย่างเท่านั้นที่เหมือนกัน นอกนันมันก็คนละหน้าที่