เวลาที่จะเลือกซื้ออะไรสักอย่าง ปัจจัยสำคัญคือระบบปฏิบัติการ ผมจะไม่ฟันธงว่าคุณควรซื้ออะไร อันไหนดีกว่า อันไหนเหนือกว่า แต่ให้ดูเองแล้วกันว่าอันไหน “เหมาะสมกับคุณมากกว่า” คำว่าความเหมาะสมคือสิ่งที่ตอบโจทย์การใช้งานที่ดีที่สุด

สำหรับประเด็นหลักที่จะพูดถึงก็คือตัว “ระบบและการใช้งาน” ในส่วนของฮาร์ดแวร์ไม่ขอเน้นแล้วกัน ตัวไหนกล้องดี จอใหญ่ เบาบาง อันนั้นค่อยไปดูกันต่อทีหลัง และโพสนี้จะพูดถึงซอฟท์แวร์ที่เป็นของ “ตัวหลัก” เท่านั้น ไม่ได้รวมถึงความสามารถหลังการรูทหรือเจลเบรค

Android Windows iOS

โฮมสกรีน

Android
แม้ว่าแต่ละเครื่องจะมีหน้าตาที่ต่างกัน แต่รูปแบบการใช่งานจะเหมือนกันหมด โดยหน้าแรกจะเป็นพื้นที่ใส่ไอคอนและวิดเจทได้หลายหน้า ปรับแต่งหน้าจอได้อย่างอิสระ มีวอลเปเปอร์เคลื่อนไหว และสามารถเปลี่ยนตัว Launcher และ Theme ได้ …ตรงนี้เป็นจุดที่ทำให้รู้สึกว่าใช้ Android มันน่าสนุก

iOS
แอพทุกอย่างจะถูกนำมารวมไว้ที่หน้าโฮมสกรีน ถ้ามีแอพเยอะก็สามารถจัดไว้ในโฟลเดอร์เพื่อให้ง่ายต่อการเรียกใช้ ปรับแต่งอย่างมากก็เปลี่ยนวอลเปเปอร์และเคลื่อนย้ายไอคอนแอพ

Windows Phone
หน้าแรกจะถูกแสดงในรูปแบบ Tile เป็นชอตคัทของแอพสำคัญๆหรือแอพที่คุณจะใช้ประจำ เปลี่ยนไทล์ได้ เปลี่ยนสีไทล์ได้ ส่วนพื้นหลังเปลี่ยนได้แค่ขาวกับดำ การปรับแต่งนอกเหนือจากนี้อยู่ในรูปแบบที่จำกัด ส่วนไอคอนแอพต่างๆถูกแยกไว้อีกหน้าหนึ่ง

Android Windows iOS

ภาษาไทยและการตั้งค่า

Android
ตั้งแต่ Android เวอร์ชั่น 4.1 ขึ้นไป มีการสนับสนุนภาษาไทยอยากเต็มรูปแบบ พิมพ์และพูดค้นหาด้วยเสียงภาษาไทยได้ เปลี่ยนคีย์บอร์ดก็ได้เพื่อให้พิมพ์ง่ายขึ้น

เมนูการตั้งค่าเป็นภาษาไทยเข้าใจง่ายดี แต่การตั้งค่าบางอย่างจะแยกส่วนออกจากเมนูตั้งค่า เช่น โอนสายไปตั้งค่าที่แอพโทรศัพท์ ตั้งค่าการค้นหาให้เข้าเมนูของ Google ฯลฯ

iOS
การพิมพ์อะไรต่างๆ คีย์บอร์ดจะแสดงอยู่ในรูปแบบเดียว เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพิ่มภาษาพิมพ์และอิโมจิได้แค่นั้น แต่ในส่วนของการใช้แอพบางแอพอาจจะมีบางอย่างที่เพิ่มเข้ามา อยู่ที่เจ้าของแอพจะใส่อะไลงไปให้ใช้งานเข้ากับแอพเขาได้ดี

สำหรับเมนูการตั้งค่าจะมีไอคอนแยกให้เห็นส่วนต่างๆชัดเจน และการตั้งค่าเกือบทุกอย่างจะมารวมอยู่หน้าเดียว ซึ่งเป็นอะไรที่สะดวกดี ส่วนทีเด็ดคือมีโหมดสำหรับผู้พิการให้ใช้งานได้สะดวก

Windows Phone
พิมพ์ไทยและมีเมนูภาษาไทยเช่นกัน แต่ตำแหน่งอักษรคีย์บอร์ดไทยค่อนค่างดูแปลกกว่าชาวบ้าน ไม่เหมือนระบบอื่นที่ออกแบบให้เข้ากันกับคีย์บอร์ดของคอมพิวเตอร์

การตั้งค่าทุกอย่างรวมอยู่ที่หน้าเดียว และมีการแยกหมวดเป็นระบบและแอพพลิเคชั่น ..ก็ดูง่ายไปอีกแบบ

Android Windows iOS

แอพและเกม

Android
คุณติดตั้งแอพได้เหมือนคอมพิวเตอร์ คือโหลดไฟล์จากไหนมาติดตั้งก็ได้ แต่แอพในแอพใน Play Store นั้นก็เพียงพอต่อการใช้งานอยู่แล้ว มีแอพน่าใช้ให้เลือกลงมากมาย เกมสนุกๆมีให้โหลดเพียบ

Android เป็นระบบที่ทำให้ติดตั้งแอพได้ง่าย แต่เรื่องความปลอดภัยของแอพนั้นคืออีกประเด็นหนึ่งที่ต้องพิจารณา เพราะแม้แต่แอพใน Google Play เองยังมีมัลแวร์ โฆษณาที่ชอบสร้างความรำคาญแจ้งเตือนเหมือน sms ขยะก็เยอะ แอพบางตัวเผลอกดผิดนิดหน่อยจะดูดเงินจากซิมไปดื้อๆ

และในกรณีที่คุณเปลี่ยนเครื่อง ถ้าคุณเคยเล่นแอพนี้ได้ แต่อีกเครื่องอาจจะเล่นไม่ได้ โดยเฉพาะพวกเกมใหญ่ๆ ถ้าฮาร์ดแวร์ของเครื่องใหม่ไม่รองรับก็จบเห่

iOS
ไม่ใช่แค่มีแอพเยอะ แต่แอพหลายตัว “มีคุณภาพ” เพราะ Apple มีความเข้มงวดในการอนุมัติแอพก่อนที่จะให้ลง App Store ทำให้มีแอพปลอมหลุดมาน้อยมาก ทุกแอพมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ ส่วนเกมใน App Store เกมสนุกๆ เกมกราฟฟิคสวยๆ เกมใหญ่ๆ มีให้โหลดเยอะที่สุดแล้วครับ

แต่ด้วยความเข้มงวดของการอนุมัติแอพ ทำให้ความหลากหลายของแอพมีแบบจำกัด

Windows Phone
ถูกขนานนามว่าเป็นลูกเมียน้อยมาตลอด เพราะมีแอพน้อย …ซึ่งก็เป็นความจริง แต่ ณ วันนี้คุณเล่นโซเชียลดังๆได้ครบแล้ว เกมดังๆก็เริ่มมีบ้าง ถ้าเทียบกับปีที่แล้ว ตอนนี้ Windows store มีแอพและเกมที่น่าสนใจเพิ่มมากขึ้นแล้วครับ แต่มีให้เลือกน้อยกว่า iOS กับ Android

ประสิทธิภาพ

Android
การทำงานจะมีประสิทธิภาพดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับ “สเปกของเครื่อง” ถ้า CPU และแรมดีก็จะทำงานได้เร็วตลอดการใช้งาน เวลาเลือกมือถือ Android จึงเหมือนๆกับการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ ต้องพิจารณาอย่างละเอียดเพื่อให้ได้เครื่องที่เหมาะกับการใช้งาน และระบบนี้เริ่มทำงานได้ดีจริงๆ ตั้งแต่รุ่น Android 4.1 ดีที่สุดคือ 4.4

iOS
ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นระบบที่ทำงานได้ไหลลื่นและมีประสิทธิภาพมานาน จนมาสะดุดที่ iOS 7 การทำงานหลายๆอย่างดูดรอปลง แต่มาดีขึ้นมากๆเมื่อได้อัพเป็น iOS 7.1 ความไหลลื่นหวนคืนสู่ iOS แล้ว

ส่วนเรื่องสเปกมองข้ามเรื่องนี้ไปได้เลย เวลาเลือกซื้อพิจารณาแค่ความจุ กับงบที่คุณมี เครื่องใหม่สุดดีที่สุดส่วนเครื่องเก่าประสิทธิภาพก็จะลดทอดลงมา

Windows Phone
เป็นอีกระบบหนึ่งที่มีเครื่อง “หลากหลายสเปก” เช่นเดียวกับ Android แต่สำหรับเครื่องที่เป็น Windows Phone 8 สเปกต่ำสุดยังทำงานไหลลื่นดีกว่าเมื่อเทียบกับ Android ที่มีสเปกเหมือนกัน และเมื่อใช้ไปนานๆประสิทธิภาพไม่ได้ดรอปลงมาก

ด้านซีพี่ยูของมือถือระบบนี้ไม่ค่อยหลากหลายเท่าไหร่เพราะเป็นดวลคอร์เกือบหมด และมีอยู่รุ่นเดียวที่เป็นระดับ 4 คอร์ ประเด็นหลักในการเลือกซื้อจึงอยู่ที่ตัวเครื่อง กล้อง ขนาดจอ และความจุ

ไฟล์และการเชื่อมต่อ

Android
การเชื่อมด้วยสาย คุณใช้เครื่องเป็น USB ได้เลย ระบบเชื่อมต่อกับคอมรุ่นใหม่ๆได้ดี และคุณสามารถเข้าถึงไฟล์ต่างๆได้เหมือนใช้คอมพิวเตอร์

iOS
ระบบไม่อนุญาติให้เข้าถึงไฟล์แบบคอมพิวเตอร์ การเชื่อมต่อทำได้ดีเฉพาะอุปกรณ์ที่เป็น iOS เหมือนกัน แต่ถ้าอยากทำอะไรได้มากกว่านี้ไม่ต้องเจลเบรคก็ได้ แค่ลงแอพที่เกี่ยวกับ Wifi Transfer หรือมีโปรแกรม iTools บนคอมพิวเตอร์ การแชร์ไฟล์ก็สะดวกขึ้นมาหน่อย

Windows Phone
ระบบไม่อนุญาติให้เข้าถึงไฟล์ แต่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ดี ถ่ายโอนไฟล์จากคอมได้ง่ายแบบไม่ต้องใช้โปรแกรมช่วย

[alert variation=”alert-info”]การแชร์ไฟล์ระหว่างกันของ Android iOS และ Windows Phone ดีที่สุดคือบริการ Cloud[/alert]

สรุป
Android ให้ความอิสระ
iOS ให้ความปลอดภัยและความไว้วางใจ
Windows Phone ให้ความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพ

บทความก่อนหน้านี้วิธีตั้งค่าโอนสาย สำหรับมือถือ Android
บทความถัดไปYouTube HD แอพเล่นคลิปยูทูป ที่ดีที่สุดบน Windows Phone
เป้าหมายการทำเว็บของผมคือ คนไทยต้องเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย จะแก้ปัญหาไอทีต้องมีทางออก เว็บมหาลัยฯจึงก่อกำเนิดขึ้น