เกมเศรษฐีคือการแข่งขัน “การลงทุน” ที่มีเรื่องดวงเข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญ แต่จะดวงดีอย่างเดียวไม่พอ พอถึงช่วงท้ายเกมคุณจะรู้สึกเริ่มลำบากกับการฝ่าด่านแลนด์มาร์คของคู่แข่ง โอกาสรอดมีน้อย และเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะทอยลูกเต๋าแล้วรอดจากเมืองของคู่แข่งไปได้ทุกเกม แต่ถ้าคุณลงทุนในทำเลที่ตั้งที่ดี ต่อให้คู่แข่งมาลงจุดที่ไม่ใช่แลนด์มาร์คก็มีสิทธิหมดตัวล้มละลายได้
ดังนั้นต่อให้คุณมีแลนด์มาร์คมากใช่ว่าจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ เพราะราคาเมืองในแต่ละจุดมันมีค่าไม่เท่ากัน ตกในที่แพงจ่ายมากตกในที่ราคาถูกก็จ่ายน้อย ความสำคัญต่อการลงทุนจึงแตกต่างกัน แล้วมีจุดไหนบ้างที่น่าลงทุน ?
1. จุดพลิกเกม
ถ้าคุณครองพื้นที่ตั้งเมืองเมืองมอสโกจนถึงปารีสได้ โอกาสชนะจะมีสูงมาก เพราะถ้าใครเดินมาตกตรงนี้จะเสียค่าใช้จ่ายสูง และซื้อต่อยากมากเพราะอาจหมดตังก่อน ยิ่งถ้าตกลงแลนด์มาร์คทีเดียวก็อาจล้มละลายได้เลย หรือถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบคุณก็จะพลิกเกมได้ครับ
2. จุดจ่ายหนัก
จุดสีแดงถ้าใครมาตกแล้วจะเจ็บมาก(ต่อให้ไม่ใช่แลนด์มาร์คนะ) เพราะราคาที่แพงสุด แต่เป็นจุดที่คนไม่ค่อยจะมาลงบ่อย ส่วนจุดสีม่วงอ่อนแม้จะไม่แพงมาก แต่ถ้าคุณมีแลนด์มาร์คตรงนี้แล้วคู่แข่งมาตกทีเดียวก็อาจหมดตัวได้เหมือนกัน
3. โบนัส X2
ทุกๆเกมจะมีจุดที่ถูกกำหนดล่วงหน้าไว้แล้วว่ามีจุดใดบ้างที่จะให้ค่าที่ X2 ถ้าคุณได้ครองพื้นที่ตรงนี้ ไม่ว่าจะอยู่เมืองใดถ้ารักษาไว้ได้มั่นจะเป็นอันตรายกับคู่แข่งมากๆ
4. เมืองที่เกาะกลุ่ม
ถ้าสร้างเมืองติดกันได้ 2-3 เมือง(แล้วแต่สี) จะได้โบนัสเพิ่ม ถ้าเป็นเมืองที่ได้โบนัสอยู่แล้วก็จะถูกคูณเพิ่มไปอีก ซึ่งการที่มีเมืองติดๆกันจะเป็นอันตรายต่อการก้าวข้ามคู่แข่ง ไม่ว่าจะอยู่จุดไหนก็ไม่มีใครอยากจะมาลงตรงนี้
[hero heading=”ในทางตรงกันข้าม”]ถ้าคู่แข่งคุณได้ครองพื้นที่ดังกล่าว แล้วมีโอกาสทำลายได้ก็จงทำซะ เช่น เมื่อมีโอกาสได้ใช้การ์ดต่างๆ การ์ดแลกเมือง การ์ดบังคับขายเมือง การ์ดพายุ ฯลฯ[/hero]