ความทันสมัยของมือถือที่ใช้ไม่เกี่ยวกับว่ามันเป็นเครื่องใหม่หรือเก่า เพราะเดี๋ยวนี้มันมีมือถืออกใหม่แทบทุกวัน แต่ความทันสมัยมันอยู่ที่มือถือยังได้รับการอัพเดทอยู่หรือไม่ ถ้าได้รับการอัพเดทก็จะทำให้ได้ใช้ซอฟท์แวร์ใหม่ ซึ่งมีผลทำให้มือถือของคุณจะสามารถใช้แอพตัวใหม่ๆได้
ส่วนปัจจัยของการที่จะได้รับการอัพเดทนั้นดูที่สเปคเป็นหลัก เพราะไม่ว่าจะซื้อเครื่องมาแพงแค่ไหนถ้าระบบใหม่มันไม่รองรับสเปคเดิมก็จะไปต่อไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสเปคอัพได้แล้วทางแบรนด์จะอัพเดทให้ เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยดังนี้
1. สเปคมือถือ
ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องรุ่นที่จะใช้ Android lollipop ได้ แต่ดูจากสเปคของ Android ONE รุ่นที่จะได้รับการอัพเดทเป็น Lollipop ซึ่งดูแล้วพื้นๆมาก ส่วนใหญ่จะมีซีพียูในระดับควดคอร์และแรม 1 GB สเปคเทียบเท่ากับสองปีที่แล้ว ดังนั้นถ้ามือถือคุณสเปคไม่ต่ำกว่านี้ ก็มีโอกาสที่จะได้รับการอัพเดท
2. แผนของแบรนด์
เวลามีข่าวการอัพเดทระบบให้มือถือ “เครื่องรุ่นท็อป” มักจะได้รับการอัพเดทก่อนเสมอซึ่งเป็นแผนทั่วไป และเป็นเรื่องปกติที่มือถือราคาแพงของแบรนด์จะได้อัพเดทนานและอัพเดทก่อนรุ่นอื่น เช่น ถ้าเป็น Samsung ก็มี Note 4 กับ S5 จะได้รับการอัพเดทก่อน
ส่วนรุ่นที่รองลงมาก็ต้องลุ้นกันทีว่าจะได้อัพเดทเมื่อไหร่ ถ้าเป็นรุ่นรองท็อปน่าจะได้อัพเดทอยู่ประมาณ 1 ปี แต่ถ้าเป็นรุ่นเล็กอาจต้องลุ้นหนักหน่อย เพราะส่วนใหญ่จะไม่อยู่ในแผนการอัพเดท
ส่วนเหตุผลที่มือถือหลายรุ่นไม่ได้อยู่ในแผนอัพเดทเพราะการอัพเดทมันต้องใช้ “ทีมงาน” และเวลาที่มีิยู่อย่างจำกัดในการพัฒนารอมขึ้นมาใช้กับมือถือรุ่นเดิม เฉพาะเครื่องเดียวบางแบรนด์เขาใช้เวลากว่า 90 วัน(นับจากมีการเปิดตัวระบบใหม่) ถึงจะปล่อยให้อัพเดท