ปีนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นของ Android ยุคใหม่ ทั้งระบบปฏิบัติการที่ใหม่ สเปคของรุ่นเรือธงที่แพงขึ้น และมือถือจีนเข้ามาทำตลาดที่ไทยมากขึ้น แถมยังมีราคาที่ถูกและสเปคดีอีกด้วย
สำหรับวิธีการเลือกซื้อ มันขึ้นอยู่กับตัวคุณด้วยว่าจะเอาสมาร์ทโฟนมาใช้งานแบบไหน แต่ไม่ว่าจะเอามาใช้งานอะไรก็ตาม ถ้าต้องการได้รับประสบการณ์ใช้งานที่ดี ควรเลือกสเปคขั้นต่ำดังนี้ครับ
สำหรับผู้ใช้ทั่วไป
ระบบ
Android 5.0 หรือ Android 4.4 ที่จะได้รับการอัพเดทเป็น Android 5.0
เครือข่าย
อยากใช้ยาวๆเลือกเครื่องที่รองรับ 4G ตอนนี้คนในกรุงเทพเริ่มได้ใช้แล้ว เดี๋ยวอีกหน่อยก็เป็นความเร็วขั้นพื้นฐาน้หมือนกับ 3G ในปัจจุบัน
หน้าจอ
ขนาดหน้าจอแล้วแต่ความพึงพอใจ แต่ถ้าอยากเห็นภาพชัดให้เลือกจอแสดงผลขั้นต่ำ 16 ล้านสี
CPU
จะเลือกใช้ซิพเซตอะไรก็ได้ แต่ความเร็วซีพียูขั้นต่ำควรเป็นระดับ Quad-Core
RAM
สาเหตุที่เครื่องอืดมักจะมาจาก “ระบบกินแรม” นะครับ ยิ่งแรมน้อยพอใช้ไปนานๆเครื่องก็จะเริ่มรวน แรมขั้นต่ำควรเป็น 2GB
หน่วยความจำภายใน (ROM)
แมว่ามือถือ Android ส่วนใหญ่ จะเพิ่มขนาดความจำได้ด้วย micro SDcard แต่ขอแนะนำให้เลือกความจำขั้นต่ำ 16 GB เอาไว้ลงแอพ …จากประสบการณ์ตรง การลงแอพบน SDcard ทำให้การทำงานของเครื่องช้าลง ให้แอพทำงานจากหน่วยความจำภายในเครื่องจะเร็วกว่า ส่วน SDcard ก็เอาไว้เก็บรูปภาพ ไฟล์อื่นๆ จะดีกว่า
แบต
เลือกความจุขั้นต่ำ 2,000 mAh แบตยิ่งมากยิ่งดี
สำหรับคนชอบถ่ายภาพ
เลือกกล้องดีๆ อย่าไปสนใจจำนวนพิกเซล เพราะนั่นไม่ใช่คำตอบที่จะทำให้ถ่ายภาพได้คมชัด ความเจ๋งของกล้องมันอยู่ที่ “เซนเซอร์” ของกล้อง …แต่เป็นสิ่งที่อธิบายยากว่าควรเซนเซอร์อะไรแบบไหน เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้ระบุ
เซนเซอร์ที่มีชื่อเสียงคือเซนเซอร์ Sony ถูกนำไปใช้กับมือถือหลายยี่ห้อ เช่น Samsung Galaxy Note 4 (บางรุ่น)
รุ่นที่แนะนำ
ร่นที่ต่ำกว่า 10,000 บาท
- HTC Desire 820s 9,900 บาท
- ZenFone 2 (จำหน่ายเดือนมีนา ราคาคาดว่าไม่ถึงหมื่น)
รุ่นที่สูงกว่า 10,000 บาท
- Samsung Galaxy A5 ราคา 12,900 บาท
- Samsung Galaxy A7 ราคา 14,900 บาท
- HTC Desire Eye ราคา 15,900 บาท
- OPPO R5 ราคา 15,900 บาท
- HTC One E8 ราคา 17,900 บาท
- LG G3 ราคา 17,900 บาท
มีอีกหลายรุ่นที่สเปคและราคาดีกว่านี้ เช่น Lenovo Acer Huawei ฯลฯ แต่ยังไม่การันตีเรื่องจะได้อัพเดทเป็น Android 5.0 และบางรุ่นยังไม่มาขายในไทยเลยยังไม่ขอแนะนำ