กราฟด้านบนแสดงการเติบโตของผู้ใช้ Facebook ที่งสี่ประเทศได้แก่ ประเทศไทย ไต้หวัน สิงคโปร์ และฮ่องกง โดยยอดเติบโตผู้ใช้ Facebook ในไทยนำโด่ง 300% ห่างจากประเทศอื่นๆในเอเชียมาก แต่ยอดผู้ใช้ของไทยไม่ใช่ที่หนึ่งของเชีย และแม้ว่า Hi5 จะยังเป็นแชมป์ผู้ใช้ในประเทศไทย ที่มีมากถึง 6 ล้านกว่าคน แต่ Facebook กำลังไล่ตามโดยมียอดผู้ใช้ 5.4 ล้านคน จากทั้งหมด 66 ล้านคนในประเทศ
หากเทียบกับในระดับโลกแล้ว สหรัฐอเมริกามียอดผู้ใช้สูงสุด 125 ล้านคน ขณะที่ไทยอยู่อันดับที่ 22 และคงจะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งไม่ได้แน่นอน เพราะแค่ตัวเลขประชากรมีแค่ 66 ล้านคน และยอดผู้ใช้อันดับหนึ่งในเอเชียคือประเทศอินโดนีเซีย มีมากถึง 25 ล้านคน เป็นอันดับสามของโลก
จำนวนผู้ใช้บ่งบอกอะไร
แม้ว่าตัวเลขของผู้ใช้ Facebook จะรวมถึงผู้ใช้ที่เสียชีวิตไปแล้ว และผู้ใช้ปลอมๆคือสมัครไว้แต่ไม่ได้ใช้จริง แต่น่าจะเป็นจำนวนน้อย เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ใช้ที่มีอยู่มหาศาล ส่วนตัวผมเองได้เปลี่ยนจากจากใช้ Myspace มาเป็น Hi5 และเลิกเล่น Hi5 อย่างถาวรแล้วเปลี่ยนมาใช้ Facebook อย่างจริงจัง พร้อมกับใช้ Twitter ไปด้วย …จึงพอมองเห็นความแตกต่างและการเปลี่ยนแปลงของ Facebook เมื่อมีผู้ใช้มากขึ้น เราจะมีเพื่อนใน Facebook มากขึ้น และสิ่งที่ตามมาคือจำนวนการตั้งกลุ่มต่างๆ เช่น Fanpage
จากคนที่ไม่เคยสนใจ Facebook ก็หันมาเล่นกันมากขึ้น เพราะมันไม่ใช่สังคมปลอมๆ หากแต่เป็นคนที่รู้จักกันอยู่แล้วมาพบปะกัน สังคมบน Facebook นั้นมันสื่อสารกันได้รวดเร็วกว่า Hi5 Multiply Myspace และมีความเป็นกลุ่มก้อน มีความเป็นรูปธรรมมากกว่า Twitter
การเติบโตของผู้ใช้ Facebook นั้นทำให้การสื่อสารการกระจายข่าวมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่นเหตุการณ์น้ำท่วม งานคอนเสิร์ต วันเกิดเพื่อน เพื่อนป่วย ฯลฯ เหล่านี้เราสามารถรับรู้ได้อย่างรวดเร็วผ่านทาง Facebook และจะนำไปสู่การบอกกันแบบปากต่อปาก หรือบอกกล่าวกันในช่องทางอื่นๆมากขึ้น แม้ว่าข่าวบนเฟสบุ๊คจะเป็นข่าวที่มาจากการแสดงความคิดเห็นบ้าง แต่มันก็มาจากการแสดงความคิดในเบื้องลึกของคนในสังคมจริงๆ ที่หาดูไม่ได้ในหนังสือพิมพ์หรือบนจอทีวี
ส่งท้าย
ทุกอย่างมันมีดีมีร้ายในตัวมันเอง Facebook ก็เช่นกัน อย่างกรณีล่าสุดที่มีการ Tag Spam สร้างความรำคาญให้กับชาวบ้าน หลายบริษัทต้องทำการบล็อก Facebook เนื่องจากพนักงานไม่ทำงาน ฯลฯ แต่ข้อดีของมันก็อย่างที่เคยกล่าวมายิ่งมีคนใช้เยอาะ (ก็ดีสำหรับคนที่ชอบ) เรายิ่งทันสมัยในเรื่องข้อมูลข่าวสารมากขึ้น และอาจได้ข้อเท็จจริงที่ยิ่งกว่าบนทีวีเสียอีก
แหล่งข่าว