iPhone 13 และรุ่น 13 mini เป็นรุ่นเบสิค มาพร้อมชิพใหม่ A15 ซีพียูแรงกว่าคู่แข่ง 50% พร้อมกล้องหลังมีกันสั่น และเพิ่มความจุ 128GB ในราคาเดิม 25,900 บาท
ราคา iPhone 13
- ความจุ 128GB ราคา 29,900 บาท
- ความจุ 256GB ราคา 33,900 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 41,900 บาท
ราคา iPhone 13 mini
- ความจุ 128GB ราคา 25,900 บาท
- ความจุ 256GB ราคา 29,900 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 37,900 บาท
เปิดจองในไทยวันที่ 1 และวางขายวันที่ 8 ตุลาคมนี้
สเปคและจุดเด่นของ iPhone 13 กับ iPhone 13 mini
iPhone 13 และ 13 mini มีทั้งหมด 5 สี ชมพู น้ำเงิน มิดไนท์ สตาร์ไลท์ แดง
- กล้องหลังดีไซน์แบบทแยงมุม ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับ f1.6 ซุมได้ 2 เท่า และซูมดิจิตอล 5 เท่า
- อัลตร้าไวด์ รูรับแสงขนาด ƒ/2.4 และมุมมองภาพ 120°
- กล้องไวด์มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัล เทียบกับรุ่นเดิมยังไม่มีฟีเจอร์นี้
- และมีโหมดภาพยนตร์ ถ่ายวิดีโอหลังละลายได้
การถ่ายภาพมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ “สไตล์ภาพถ่าย” คล้ายๆกับการสร้างฟิลเตอร์ แต่ต่างกันตรงที่ ฟิลเตอร์เวลาแต่งรูปสีสันจะเปลี่ยนแปลงทั้งภาพ แต่ “สไตล์ภาพถ่าย” เราเลือกที่จะไม่เปลี่ยนโทนผิวได้
ได้ความจุเริ่มต้น 128GB เพิ่มขึ้น 2 เท่า จากรุ่นเดิมที่เริ่มต้นด้วย 64GB
จอภาพ OLED ทั้งคู่ สว่างมากขึ้น 28% สีสันสดใสเป็นธรรมชาติ และมีความคมชัด
- iPhone 13 หน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว
- iPhone 13 mini หน้าจอขนาด 5.4 นิ้ว
ฟีเจอร์อื่นๆ
- จอภาพ HDR
- True Tone
- ขอบเขตสีกว้าง (P3)
- การแตะค้างแบบสั่น
- อัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1 (ทั่วไป)
- ความสว่างสูงสุด 800 นิต (ทั่วไป) และความสว่างสูงสุด 1,200 นิต (HDR)
- เคลือบสารกันรอยนิ้วมือ
- รองรับการแสดงผลหลายภาษาและตัวอักษรหลายแบบพร้อมกัน
ชิพ A15 Bionic ที่แอปเปิ้ลเคลมว่าเร็วแรงกว่าคู่แข่งถึง 50% เป็นชิพตัวเดียวกับ iPhone 13 Pro
ที่สนใจประหยัดแบตมากขึ้น โดย iPhone 13 อยู่ได้นานกว่ารุ่นเดิม 2.5 ชั่วโมง และรุ่น 13 mini แบตนานขึ้น 1.5 ชั่วโมง
และในส่วนของ 5G รุ่นนี้รองรับย่านความถี่มากขึ้น
เป็นไงบ้างกับฟีเจอร์ของ iPhone 13 และ 13 mini ดีพอที่จะอัพรุ่นหรือเปล่า ถ้ายังไม่แน่ใจรอดูรีวิวก่อนก็ได้ จะวางขายต้นเดือนตุลาคมนี้เอง