สำหรับสาย Mac ไม่ว่าจะเป็น Mac mini, Studio รวมทั้งพวก Macbook Air, Pro ทั้งหลาย คุณใช้ทำรูป AI Art ได้หลายทางเลือกมากๆ ขอแค่ใช้ชิป M1 หรือถ้าได้ M2 ยิ่งดี

ส่วนตัวใช้ MacBook Pro M2 รุ่น GPU 19 core ประสิทธิภาพเหลือล้นสำหรับใช้งานทั่วไป แต่ในส่วนการทำภาพ AI แรงระดับหนึ่ง

เครื่องรุ่นอื่นๆเคยใช้แค่ Macbook Pro M1 แต่จากประสบการร์เปิดคอร์สสอนทำรูป AI นักเรียนผมใช้ Mac หลากหลายอุปกรณ์ iPad Pro ชิป M2 ก็ยังทำรูป AI ได้ดี

ฉะนั้นถ้าจะซื้อ Mac มาทำรูป AI ควรเริ่มต้นที่ชิป M2 จะดีกว่า (ถ้าชิป M3 ออกมาแล้ว ก็ใช้ชิป M3 นะ)

1. Draw Things AI

นี่คือตัวเลือกแรกๆสำหรับชาว Mac เพราะเป็นแอพสร้างภาพ AI ใช้งานง่ายสุด ประสิทธิภาพดีสุดเพราะมันสร้างมาสำหรับ Mac โดยเฉพาะ

สำหรับฟีเจอร์ ถือว่าเพียงพอสำหรับใช้งานพื้นฐาน คุณสามารถติดตั้งโมเดลประเภท Checkpoint, Lora และ Ti ได้เอง แต่ ColtrolNet นักพัฒนาจะเลือกอันที่ใช้ได้มาให้เอง ฉะนั้นมันก็ยังมีข้อจำกัดการใช้งานอยู่

และอีกข้อจำกัดหนึ่งคือ “เทรนไม่ได้” ระบบมันยังไม่เหมาะกับ Mac ส่วนตัวใช้วิธีเทรนผ่านออนไลน์กับ Google Colab

แนะนำอ่าน Step แรกเริ่มวาดรูปนางแบบ AI มือถือ iPhone iPad ก็ทำได้

Draw Things AI

2. DiffusionBee

นี่คือแอพ AI ตัวแรกที่ผมใช้บน Mac แต่ก่อนมันมีข้อจำกัดสูง และมาเจอ Draw Things AI ทำได้ดีกว่าก็เลยไม่ค่อยได้ใช้

แต่ตัวนี้มีฟีเจอร์สุดเจ๋งก็คือ Lora Tools ใช้สำหรับผสม Checkpoint + Lora และในอนาคตจะสามารถใช้เทรนได้อีกด้วย

อีกฟีเจอร์น่าสนใจคือการทำวิดีโอ โดยวิธีคือเจนรูป 40-50 รูป แล้วมันจะเอามารวมเป็นวิดีโอให้เอง

ดาวน์โหลดตัว beta https://github.com/divamgupta/diffusionbee-stable-diffusion-ui/releases

DiffusionBee

3. Mochi Diffusion

ฟีเจอร์น้อยผมไม่ได้ใช้เลย แต่ที่เอามาแนะนำเพราะ มันคือแอพที่ “ทำรูป AI ได้เร็วที่สุด” ผมชอบคอนเซปมาก โดยหลักการเขาจะให้โหลดโมเดลที่ถูกแปลงสำหรับ CoreML

แต่ยังมีข้อจำกัดสูง กำหนดขนาดภาพไม่ได้ ไม่มี Sampler ให้เลือก และอีกมากมาย

ดาวน์โหลด https://github.com/godly-devotion/MochiDiffusion/releases

Mochi Diffusion

4. Diffuser

แนวคิดคล้ายๆกันกับ Mochi Diffusion คือเอาโมเดลที่แปลงแล้วมาใช้ ทำให้ทำงานได้เร็ว แต่ฟีเจอร์มันยังมีน้อยมากๆ

ดาวน์โหลด https://apps.apple.com/th/app/diffusers/id1666309574?l=th&mt=12

Diffuser

5. Piokio

นี่คือตัวทีเด็ด Piokio มันคือ “ตัวกลาง” สำหรับใช้ลงโปรแกรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ComfyUI หรือตัวที่ฮิตกันคือ Stable Diffusion WebUI

ที่สำคัญคือตอนติดตั้ง WebUi และพวกโปรแกรมต่างๆ ทำได้ง่ายๆคือ “คลิกเดียว” กดติดตั้งแล้วรอให้มันทำเสร็จแค่นั้น และการใช้งานก็ไม่ต่างกันกับที่ติดตั้งด้วยตัวเองแบบยากๆ

ดาวน์โหลด https://pinokio.computer

Piokio

6. Stable Diffusion WebUI

แนะนำให้ลง Piokio ก่อนนะ จะติดตั้งตัวได้ง่ายมาก แต่สำหรับการใช้งาน Stable Diffusion WebUI บนแมคยังมีข้อจำกัดสูง

เช่น การเจนรูป ทำภาพขนาดเล็กก็เร็วดีอยู่ แต่พอใช้ Hires Fix แล้วมันช้ามากๆ แต่ใช้ Draw Things ทำ Hires Fix ทำงานได้เร็วกว่า 2 เท่า

ที่เป็นแบบนั้นเพราะมันไม่ได้ออกแบบมาสำหรับ Mac แต่ที่ผมลงไว้ เอาไว้ใช้ผสมโมเดล และใช้งานฟีเจอร์อื่นๆที่ไม่ต้องใช้พลัง GPU มาก

Stable Diffusion WebUI

7. ComfyUI

นึกไม่ถึงว่าจะได้ใช้ ComfyUi บนแมค (ลงผ่าน Piokio) การใช้งานค่อนข้างซับซ้อน ไม่เหมาะกับมือใหม่อย่างยิ่ง ส่วนใหญ่เอาไว้เล่น SDXL

ส่วนตัวยังเป็นมือใหม่ ComfyUi และคงไม่ได้ใช้งานเป็นหลัก

ComfyUI

8. Google Colab (ออนไลน์)

เป็นทางเลือกสำหรับคอมที่ไม่แรง เพราะทำผ่านออนไลน์ และไม่กินกรัพยากรเครื่อง แค่ต้องเสียเงินนะ เดือนละ 344 บาท เล่นได้ 50 ชั่วโมง หรือจ่าย 1,600 เล่นแบบจุกๆ 250 ชั่วโมง

ส่วนตัวแต่ก่อนเอาไว้ลง Stable Diffusion WebUI หลังๆมา error บ่อย เอาไว้ใช้เทรน Lora อย่างเดียว

ลิ้งค์เทรน Lora https://colab.research.google.com/github/Linaqruf/kohya-trainer/blob/main/kohya-LoRA-dreambooth.ipynb

Google Colab

9. Photoshop beta

Photoshop ไม่ใช่แค่ตัดต่อแล้วนะ มันเหนือกว่านั้นเพราะมี AI และสามารถใช้เจนรูปได้ด้วยนะ แต่ส่วนใหญ่ผมจะเอาไว้ใช้ขยายพื้นหลัง ลบลายน้ำที่ติดมากับรูป AI และใช้ซ่อมมือของนางแบบ AI

โปรแกรมมีค่าใช้จ่ายนะ 380 ต่อเดือน ตอนเช่าให้เลือกแพ็คเกจ Photograhy จะได้ใช้ทั้ง Lightroom, Lightroom Classic, Photoshop สำหรับเดสก์ท็อปและ iPad และพื้นที่เก็บข้อมูล 20GB บนระบบคลาวด์

Photoshop beta

10. บริการออนไลน์ต่างๆ

สำหรับคอมที่ไม่แรก เลือกใช้บริการออนไลน์ก็สะดวกดี แต่จะมีข้อจำกัด ที่ฮิตมากๆคือ Midjourney แต่ทำภาพแนว NSFW ไม่ได้ หรือข้ามมาอีกฝั่งก็มี Adobe Firefly ที่ทำรูปคนออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่

Midjourney
เป็นตัวที่ฮิตที่สุด ทำภาพสวยมากๆ ใช้งานง่าย แต่มีข้อจำกัดสูง และต้องจ่ายรายเดือน

Adobe Firefly
เป็นคู่แข่งหน้าใหม่ของ Midjourney เพราะมีค่าบริการเช่นกัน แต่ยังไม่เก็บเงินแบบแยก ใครที่เป็นสมาชิกเสียเงินให้กับ Adobe อยู่แล้ว เข้าใช้งานได้เลย

Mage
อันนี้น่าสนใจ เจนรูประบบ Stable Diffsuion จ่าย 500 กว่าบาทต่อเดือน เจนรูปได้ไม่จำกัด มีโมเดลเจ๋งๆให้เลือก ใช้ Lora และ TI ได้อีก

แต่เหมาะสำหรับเจนรูป “เน้น Prompts” อย่างเดียว ถ้าลง ControlNet ก็น่าจะเพอร์เฟคกว่านี้

จริงๆยังมีแอพและบริการต่างเกี่ยวกับการทำรูป AI อีกมากมาย ใน App Store แค่ค้นคำว่า Stable Diffusion เจอแอพเยอะเลย มีทั้งแบบฟรี บางแอพก็จะให้เช่าเซิร์ฟผ่านออนไลน์ ทำให้เจนรูป AI ได้เร็วแม้ว่าใช้บน iPhone

บทความก่อนหน้านี้แจก 15 Prompt โมเดล MagMix V7
บทความถัดไปรีวิว MacBook Pro M2 เจนรูป Draw Things AI เร็วสุดๆ
เป้าหมายการทำเว็บของผมคือ คนไทยต้องเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย จะแก้ปัญหาไอทีต้องมีทางออก เว็บมหาลัยฯจึงก่อกำเนิดขึ้น