ตอนแรกๆที่ทำเว็บ Maahalai.com มีปัญหาใหญ่ที่สำคัญ คือ “เขียนอะไรดี” 
…ปัญหาตอนทำเว็บช่วงแรกๆของผมกับเพื่อนคือ เขียนเรื่องอะไรดีคนถึงจะเข้ามาอ่าน วันที่เริ่มเขียนอย่างจริงจังคือวันที่ 7 พฤศจิกายน 2553 ในเดือนนั้นเขียนมาจนถึงวันที่ 23 ก็ยังไม่สามารถทำให้คนเข้ามาอ่านได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเขียนทุกวัน อัพเดทบล็อกบ่อยๆแล้วก็ตาม
…แต่มีอยู่สิ่งหนึ่ง ที่เป็นจุดเปลี่ยน ทำให้คนเข้าเว็บมหาลัยออนไลน์มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยสถิติล่าสุด 282,278 UIP อ้างอิง http://www.stats.in.th/?cmd=stats&user=maahalai&list=y
จุดเปลี่ยนที่สำคัญของเว็บ Maahalai.com คือได้เรื่องที่โดนใจผู้อ่าน นั่นก็คือเรื่อง “แฮปปี้คนเลี้ยงหมู” จัดเป็นเนื้อหาเว็บยอดนิยม ที่สำคัญ ผมและเพื่อนของผมเป็นกลุ่มคน คนแรกๆของประเทศที่ศึกษาวิธีการเล่นเกมส์ “แฮปปี้คนเลี้ยงหมู” อย่างจริงจัง แล้วนำสาระวิธีการเล่นที่ได้มาเผยแพร่ต่อ
จากการได้เขียนเรื่อง “แฮปปี้คนเลี้ยงหมู” ก็ทำให้รู้ว่ามีคนสนใจเรื่องเกมส์บน Facebook จำนวนมาก …ถ้าเขียนเรื่องนี้ เขียนยังไงก็มีคนตามมาอ่าน และได้ต่อยอดเป็นเรื่อง “CityVille” ซึ่งก็มีคนมาอ่านเยอาะเหมือนกัน
นี่คือสถิติ 10 เรื่องที่คนเข้าชมมากที่สุดของเว็บ Maahalai.com อันดับหนึ่ง 
เป็นเรื่อง “แฮปปี้คนเลี้ยงหมู” คนอ่านเป็นแสน ซึ่งนับว่าเป็นสถิติสูงสุดของเว็บ ยากที่เรื่องอื่นจะมาโค่นล้ม …ที่สำคัญที่ทำให้คนมาตามอ่านอยู่เรื่อยๆ เพราะพวกผมเขียนเองกับมือ ไม่ได้ลอกใครเขามา …การเขียนเอง ไม่ลอกใคร เป็นจุดยืนที่พวกผมทำมาตลอด ทำให้เว็บมีความน่าเชื่อถือในเนื้อหา
จะเห็นว่าใช้เวลาเกือบเดือน กว่าจะได้เรื่องที่โดนใจคนอ่าน
จากเรื่อง “แฮปปี้คนเลี้ยงหมู” แค่เรื่องๆเดียว เขียนได้มาจะครบร้อยบทความแล้ว แล้วก็มีเรื่องอื่นๆที่กำลังจะเขียนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ Facebook-tips, PowerPoint, CityVille สามเรื่องนี้ มีคนมาอ่านอย่างต่อเนื่องเหมือนกัน แม้จะไม่มากก็ตาม
ตอนนี้ได้เรื่องที่จะเขียนแล้วยัง !?! 
ให้ดูว่าเว็บเรา จะทำเกี่ยวกับอะไร จะให้อะไรกับคนอ่าน ตัวอย่างเช่น เว็บ Maahalai.com ให้ความรู้กับคนอ่าน “โดยที่ความรู้จะมาจากประสบการณ์จริง" …ถ้าจะทำบล็อกเขียนเรื่องอะไรก็ตามแต่ ให้ถามตัวเองนะว่าถนัดอะไร ส่วนตัวผมถนัดเรื่องการทำเว็บ เขียนบล็อก เล่นเกมส์ เล่น Facebook ความรู้ต่างๆที่อยู่ในเว็บผมก็มาจากสิ่งเหล่านี้ มาจากสิ่งที่ถนัดอยู่แล้ว การเล่าเรื่องจึงไม่ใช่เรื่องยาก แล้วก็ดูมีชีวิตชีวาด้วย เพราะเป็นการเขียนจากสิ่งที่อยู่ในหัว หรือกระทำอยู่ทุกวัน
การเขียนบล็อกนั้นทำได้หลายแบบ ไม่จำกัดแนวคิด ถ้าจะให้ดีทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เช่น บางคนชอบแต่งกลอนก็เขียนบล็อกแต่งกลอน ชอบอ่านข่าวก็เขียนวิเคราะห์ข่าว ชอบวาดการ์ตูนก็วาดการ์ตูนลงบล็อก ฯลฯ หรือจะเขียนเรื่องของเราเอง ชีวิตเราลงบล็อกก็ได้
สิ่งที่หวาดหวั่น
…ถ้าเขียนแล้วไม่มีคนอ่านเนี่ย เหนื่อยนะ!! 
บางทีเขียนๆไป ก็ไม่คิดว่าคนจะมาชอบขนาดนี้ เช่น อมยิ้มได้ทุกวัน กับ … “สมาคมมุขเสี่ยวๆ” ได้ตั้ง 500 Like แหน่ะ และเรื่อง 11 มุขเด็ด จากสมาคมมุขเสี่ยวๆ มีผู้ชมมากดให้พันกว่า Like เพราะสองเรื่องนี้แหล่ะ ที่ทำให้ผมเจาะกลุ่มคนใช้ Facebook อย่างจริงจัง คือเขียนอะไรเสร็จ ก็นำลิงค์ไปโพสต่อที่ Facebook และมีการเขียนเรื่องเกี่ยวกับ Facebook มาอย่างต่อเนื่อง …และสิ่งที่เราเขียนมันจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราเริ่มถนัด การมีความต่อเนื่องนั้นจะทำให้คนอ่านเขาเชื่อ และเราก็จะมีความน่าเชื่อถือในเรื่องนั้นๆ
ดังนั้นผมว่าสิ่งสำคัญคือความต่อเนื่อง เรื่องที่เขียนต้องไม่แคบหรือกว้างจนเกินไป ทำให้มันสามารถเขียนออกมาอย่างต่อเนื่อง จากเรื่องหลักๆหนึ่งเรื่องที่เราถนัด
