บล็อกคุณภาพหลายๆบล็อก มักจะเจอปัญหา “การก็อบปี้เว็บไปทั้งดุ้น”  …สำหรับผมนะ โดนก็อปปี้เนื้อหาไปสัก 2-3 เรื่อง  ถือว่าไม่มีปัญหาอะไร  แต่บางเว็บนี่สิ เอางานของเราไปทั้งเว็บ หรือทั้งแคทตาล็อก  ซึ่งเรื่องแบบนี้ผมเคยเจอมาแล้ว ตอนที่ทำเว็บ http://droidza.com/  ซึ่งก็ได้แจ้งปัญหาไปเรียบร้อย ด้วยการส่ง email ไปแจ้งเตือน ให้กับผู้ดูแลเว็บ

ถูกคัดลอกแล้วไม่ดียังไง

ข้อดีของการที่เนื้อหาได้ถูกคัดลอกไปหลายๆเว็บก็คือ “เป็นการกระจายข่าวและความรู้ให้ทั่วถึง” แต่ผลร้ายอาจตกอยู่ที่บล็อกเกอร์หรือเจ้าของผลงาน สำหรับเว็บข่าว การถูกคัดลอกเป็นเรื่องธรรมดา   เพราะมันเป็นสิ่งที่อ่านแล้วก็ผ่านไปเลย  เป็นความรู้แค่เล็กน้อย เดี๋ยวเดียวก็ตกยุค  แต่บล็อกที่เขียนเองกับมือหรือเว็บที่ให้ความรู้ อย่างเว็บ https://maahalai.com/  จัดเป็นเว็บที่สร้างสรรค์ผลงานเองล้วนๆ  และเนื้อหาในเว็บก็จะสามารถใช้ได้ตลอดไป  บทความที่เก่าคนเข้าชมเว็บ เขาสามารถย้อนไปอ่านได้ตลอด  เพราะเนื้อหามันคือ “ความรู้” มันไม่ตกยุคเร็ว

จากประสบการณ์ทำเว็บ http://droidza.com/ มาก่อน ผมเองก็เล็งเห็นปัญหาของการถูกคัดลอกแล้วว่า “มันจะทำให้คนเข้าเว็บเราน้อยลง” และคนจะสับสนไม่รู้ว่าใครคือเจ้าของผลงาน หรือเอางานเราไปดัดแปลงกลายเป็นผลงานของเขาไป   ที่สำคัญความเป็น “เอกลักษณ์” ของเราจะลดน้อยลง  เป็นเพราะว่าเว็บอื่นเขาก็มีอย่างที่เรามี  เพราะถูกคัดลอกไป 

ดังนั้น “เอกลักษณ์” คือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรรักษาไว้ ถ้าเว็บเราถูกลอกเนื้อหาเมื่อไหร่ เมื่อนั้นความเป็นเอกลักษณ์จะลดน้อยลง   เพราะเนื้อหาเว็บมันถูกคัดลอกได้ง่ายยิ่งกว่าการก็อปปี้สินค้านั้นอีก  

รุ้ได้อย่างไร ว่าใครมาลอกของเราไป

วิธีการง่ายๆ ให้ค้นหาคำโดยใช้ “คีย์เวิร์ด” ที่เกี่ยวกับเว็บเรา เช่นเว็บ https://maahalai.com/  จะใช้คำว่า “ตารางผสมหมู” ก็จะได้ผลลัพท์จาก Google ดังนี้

Webmaster-060

นี่เป็นตัวอย่างที่ค้นเจอ ถ้าเราเป็นตัวจริงเรื่องไหน เว็บของเราก็จะขึ้นเป็นอันดับต้นๆ ใน Google ซึ่งจะทำให้คนเข้าเว็บเราได้ง่ายขึ้น

แต่จากการเลื่อนไปดูผลการค้นหาในเว็บอื่นๆ ก็พบว่าเนื้อหาจากเว็บ https://maahalai.com/ โดยคัดลอกไปเยอาะ

Webmaster-061

เช่น ตารางผสมหมู ที่ผมเป็นคนสร้างขึ้น ไปอยู่ในเว็บ Postjung โดยถูกคัดลอกไปทั้งหน้า  …แต่ผมเฉยๆ เพราะเอาไปแค่บทความเดียว

Webmaster-062

บางคนไร้มารยาท ไม่มีแม้แต่การอ้างอิง  เลยกลายเป็นว่า เขาเป็นเจ้าของผลงาน ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องที่เราเขียน

…สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราจะต้องเจอ สำหรับคนทำเว็บคุณภาพ  ถ้าเอาไปนิดๆหน่อยๆ ส่วนตัวแล้วไม่เป็นไร  แต่ถ้าเอาไปทั้งแคทตาล็อก แบบก็อบเนื้อหาเราไปทั้งเว็บ นี่สิ “ปัญหา” ผมมีวิธีจัดการในแบบของผม

การจัดการหากต้องการให้เขาลบเนื้อหาของเราออก

เราเป็นเจ้าของผลงาน ดังนั้นเราจะมีอภิสิทเหนือกว่าผู้คัดลอกผลงานอยู่แล้ว  สำหรับผมจะใช้วิธีสองอย่างคือ  อันดับแรก ส่งอีเมล์ไปหาผู้ดูแลเว็บนั้นๆ ว่าขอความร่วมมือให้ลบออก โดยใช้ภาษาที่สุภาพ  ผมใช้วิธีนี้ หลายๆเว็บเขาก็ให้ความร่วมมือ

อีกวิธีคือการไปโพสแสดงความคิดเห็น  ในบทความนั้นๆ ว่าเราต้องการให้ลบออก เท่าที่ลองดูเขาก็ให้ความร่วมมือ  แต่ต้องใช้ภาษาที่สุภาพนะ  เขาจะเกรงใจ  และเราก็เป็นเจ้าของผลงานอยู่แล้ว

แนะนำให้เขียน “ลิขสิทธิ์”

ในเว็บ https://maahalai.com/  ผมได้เขียนลิขสิทธิ์ไว้ที่ https://maahalai.com/license เพื่อใช้ในการอ้างอิง ว่าเราอนุญาติเกี่ยวกับบทความของเราได้มากน้อยแค่ไหน  สำหรับบทความในเว็บ Maahalai.com ปกติถ้าจะลอกเนื้อหาไป ต้องขออนุญาติจากผมก่อน จึงจะเอาไปลงได้  ถ้าเว็บใดฝ่าฝืน ก็จะนำลิขสิทธิ์ที่เขียนไว้ไปอ้างอิง  เขียนให้ชัดเจนว่าเราห้ามทำอะไรกับบทความเราบ้าง

เมื่อเขาไม่ยอมฟัง

ผมเคยเห็นหลายเว็บ  โดนคัดลอกเนื้อหาไปทั้งเว็บ  เขาใช้วิธี  “ประจาน”  ตักเตือนบ้าง อะไรบ้าง …แต่ถ้าถึงขั้นไม่ยอมฟัง  ก็ยังมีช่องทางทางกฏหมาย  โดยขั้นแรกให้ติดต่อไปยังโฮสที่ให้บริการเว็บนี้ก่อน http://whois.domaintools.com/ กรอก URL ของเว็บคู่กรณีลงไป

Webmaster-063

หลังจากที่กรอก URL ของคู่กรณีแล้ว ข้อมูลเพียบเลยครับ  รวมทั้งข้อมูลของโฮสที่เขาใช้ด้วย  ซึ่งก็ให้ไปติดต่อโฮสให้เขาขอระงับเว็บนี้  แต่ถ้าเขาใช้โฮสที่เป็นของต่างประเทศ  วิธีการนี้อาจจะลำบากสำหรับเรา

แต่ถ้าเขามีโฆษณา Adsense ให้เราคลิ๊กตรง “โฆษณาโดย Google” และส่งรายงานละเมิดเว็บไซท์  แต่ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลานานมาก

หนทางสุดท้ายคือ แจ้งความดำเนินคดี กับสถานีตำรวจ  ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้นครับ  แต่ในต่างประเทศเหมือนจะเคยมีมาแล้ว  ในไทยส่วนใหญ่จับแต่เว็บโป๊ 

ส่งท้าย

โดยมาก จะพูดกันรุ้เรื่อง  แค่ตักเตือนหรือขอร้องไปเขาก็ลบออกให้แล้วครับ  ในประเทศไทย ยังไม่มีกรณีขึ้นโรงขึ้นศาล เพราะเราคุยกันได้

บทความก่อนหน้านี้11 มุขเสี่ยวๆ ระดับ 10,000 Like (by สมาคมมุขเสี่ยวๆ)
บทความถัดไปจบข่าว!! Facebook จะปิดตัวในวันที่ 15
เป้าหมายการทำเว็บของผมคือ คนไทยต้องเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย จะแก้ปัญหาไอทีต้องมีทางออก เว็บมหาลัยฯจึงก่อกำเนิดขึ้น